เสริมความงามด้วย Filler ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์
ปัจจุบันความงามและการดูแลตัวเองมีบทบาทสำคัญมากขึ้น การรักษาผิวพรรณและการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดกลายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย หนึ่งในวิธีการที่ได้รับการยอมรับและนิยมมากที่สุดคือการใช้ฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถปรับแก้ไขริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก และยกกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟิลเลอร์มีหลายประเภท แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกาย
การใช้ ฟิลเลอร์ (Filler) ไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณมีผิวที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ยังสามารถปรับปรุงรูปหน้าให้มีความสมส่วนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น การรักษาด้วยฟิลเลอร์ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ในทุกแง่มุม ตั้งแต่ประเภทของฟิลเลอร์ ประโยชน์ กระบวนการในการฉีด การดูแลหลังการฉีด รวมถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกคนมีข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว มาค้นพบทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับฟิลเลอร์ และการใช้ในการเสริมความงามในบทความนี้กันเลยค่ะ
Filler คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Filler) หรือที่รู้จักในชื่อสารเติมเต็มที่ใช้ในการฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มริ้วรอย ร่องลึก หรือเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของใบหน้า ฟิลเลอร์สามารถใช้เพื่อเสริมความงามในหลายๆ บริเวณ เช่น ริมฝีปาก ร่องแก้ม คาง และใต้ตา โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย มันมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูเต่งตึงและเรียบเนียน นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ประเภทอื่นๆ เช่น Calcium Hydroxylapatite (CaHA), Poly-L-lactic Acid (PLLA), และ Polymethyl Methacrylate (PMMA) ที่ใช้ในกรณีต่างๆ ตามความต้องการของผู้รักษา
ฟิลเลอร์มีกี่แบบ?
โดยสามารถแบ่งประเภทของฟิลเลอร์ได้ ดังนี้
ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิก แอซิด หรือ Hyaluronic Acid (HA)
1. เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
2. ช่วยเติมเต็มและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เพิ่มปริมาตรให้กับแก้ม ริมฝีปาก หรือคาง
3. มีความปลอดภัยสูงและสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
ฟิลเลอร์แคลเซียม ไฮดรอกซีลาพาไทต์ หรือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA)
1. เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อสารหนาแน่นกว่า HA
2. มักใช้ในการเติมเต็มริ้วรอยลึกและเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อ
3. ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12 เดือน
ฟิลเลอร์โพลี-แอล-แลคติค แอซิด หรือ Poly-L-lactic Acid (PLLA)
1. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง เช่น Sculptra
2. ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างผิวและใบหน้าและเติมเต็มปริมาตรในระยะยาว
3. ผลลัพธ์จะปรากฏค่อยๆ และอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ฟิลเลอร์เพื่อการปรับปรุงระยะยาว หรือ Polymethyl Methacrylate (PMMA)
1. มีคุณสมบัติที่ทำให้แตกต่างจากฟิลเลอร์ชนิดอื่นๆ และเป็นที่นิยมในวงการแพทย์ด้านความงาม เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ
2. มีความคงทนเนื่องจาก PMMA ไม่ถูกย่อยสลายโดยร่างกาย ฟิลเลอร์ชนิดนี้จึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน บางครั้งอยู่ได้หลายปี
3. มักใช้ในการแก้ไขริ้วรอยลึกและปรับปรุงโครงสร้างใบหน้า PMMA ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณที่ฉีด ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและความหนาขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในบริเวณนั้น ๆ
ฟิลเลอร์ไขมัน (Fat Grafting)
1. ใช้ไขมันจากร่างกายผู้รักษาเอง
2. เพื่อเติมเต็มปริมาตรในบริเวณต่างๆ เช่น ใบหน้า มือ และร่างกาย
3. มีความปลอดภัยสูง เพราะไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้หรือการปฏิเสธจากร่างกาย เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติที่มาจากร่างกายของเราเอง แต่ต้องการการดูแลหลังการฉีดมากขึ้นเมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ เนื่องจากมีการฟื้นตัวที่ใช้เวลานานกว่าจากอาการบวมและช้ำในบริเวณที่ฉีดและบริเวณที่ดูดไขมัน อาการเหล่านี้จะค่อยๆ ลดลงภายใน 1-2 สัปดาห์
มาทําความเข้าใจกันต่อในส่วนของการทํางานของฟิลเลอร์
การทำงานของฟิลเลอร์ในชั้นผิวหนัง
ฟิลเลอร์ทำงานในชั้นผิวหนังที่ต่างกันตามประเภทและการใช้งาน
- ชั้นผิวหนัง (Dermis)
จะใช้ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด และฟิลเลอร์แคลเซียม ไฮดรอกซีอะพาไทต์ เพื่อฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังเพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก
- ชั้นใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Layer)
ส่วนนี้จะใช้ฟิลเลอร์ไขมันและฟิลเลอร์โพลี-แอล-แลกติก แอซิด ฉีดเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังเพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับปรุงโครงสร้างใบหน้า
การใช้ฟิลเลอร์ในหน่วย cc คืออะไร
ฟิลเลอร์มักถูกวัดและใช้ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) โดยปริมาณที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามบริเวณที่ต้องการปรับปรุงและความต้องการของผู้รับการรักษา ตัวอย่างเช่น:
ฟิลเลอร์ใต้ตา: ประมาณ 0.5-1 cc ต่อข้าง
ฟิลเลอร์ริมฝีปาก: ประมาณ 1-2 cc
ฟิลเลอร์แก้ม: ประมาณ 1-3 cc ต่อข้าง
ฟิลเลอร์คาง: ประมาณ 1-2 cc
การใช้Fillerในส่วนต่างๆ ของใบหน้า
ฟิลเลอร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปรับปรุงและเสริมความงามของใบหน้า โดยสามารถใช้ได้ในหลากหลายบริเวณเพื่อให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคล โดยสามารถเริ่มได้จากส่วนแรก คือ
ริมฝีปากและเส้นปาก
การฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากและเส้นปากเป็นการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ช่วยเพิ่มความอิ่มเอิบให้กับริมฝีปากและลดริ้วรอยบริเวณเส้นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับปรุงริมฝีปาก: การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มและความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูเต่งตึงขึ้น ลดเลือนริ้วรอยรอบๆ ริมฝีปาก และเพิ่มความเต็มให้กับเส้นปากที่สูงขึ้น
การปรับรูปทรงริมฝีปาก: ฟิลเลอร์สามารถใช้ในการปรับรูปทรงริมฝีปากให้ดูสมส่วนและมีความสวยงามมากขึ้น เช่น การเพิ่มขอบปากให้ชัดเจน การเติมเต็มพื้นที่ริมฝีปากที่ขาดน้ำหนัก เป็นต้น
ดังนั้นถ้าใครอยากเพิ่มมั่นใจให้กับริมฝีปาก ลองมาฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณปากกันดูนะคะ
แก้มและโหนกแก้ม
การยกกระชับแก้ม: การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มแก้มที่ตกลงตามธรรมชาติของวัย ทำให้ใบหน้าดูยกตัวขึ้นและกระชับมากขึ้น
การเพิ่มมิติให้กับโหนกแก้ม: ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มมิติให้กับโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเด่นและมีโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น
ใต้ตาและรอบดวงตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการลดเลือนรอยคล้ำ ริ้วรอย และถุงใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีข้อดีมากมายและเป็นวิธีที่สามารถเห็นผลได้ทันที ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น
การลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา: การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่บริเวณใต้ตา ช่วยเติมเต็มพื้นที่ใต้ตาที่มีรอยคล้ำ ทำให้ดวงตาดูสดใสและลดการเหนื่อยล้า
การลดรอยลึกและริ้วรอยรอบดวงตา: ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มรอยลึกและริ้วรอยรอบดวงตา ทำให้บริเวณนี้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์ขึ้น
การใช้ Fillerในบริเวณต่างๆ ของใบหน้าไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ซึ่งที่ Dermistique คลินิกของเรา มั่นใจได้ถึงความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของที่มีประสบการณ์โดยตรง ดูแลครบจบหมดกังวลเรื่องปัญหาผิวพรรณ เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์ และมี การนําเข้าสารสําคัญในการใช้ฉีดเข้าสู่ผิวพรรณลูกค้าโดยหากลูกค้าท่านไหนต้องการรับคําปรึกษา เข้ามาประเมินราคาการรักษาที่ใกล้เคียงสุด สามารถติดต่อได้ที่ Line @dermistique เพื่อจองรับคําปรึกษา
แล้วการฉีดฟิลเลอร์เหมาะกับใคร
ช่วยแก้ปัญหาผิวพรรณที่คอยกวนใจได้อย่างไรบ้าง?
เราขอแนะนําสําหรับผู้ที่กังวัลเรื่องปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ ความกระชับของใบหน้าและส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น
ผู้ที่ต้องการเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก
ริ้วรอยร่องลึกที่เกิดขึ้นตามอายุ เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยรอบปาก และร่องลึกใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตาจะเข้าไปช่วยเติมเต็มและทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
ผู้ที่ต้องการเพิ่มปริมาตรและความกระชับให้กับใบหน้า
ผู้ที่มีโหนกแก้มแบนหรือใบหน้าขาดปริมาตร ฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีมิติมากขึ้น ใบหน้าดูเต่งตึงและเต็มอิ่มขึ้น
ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงใบหน้า
การปรับรูปทรงใบหน้า เช่น การเสริมคาง การเสริมจมูก หรือการปรับกรอบหน้า ฟิลเลอร์จะช่วยปรับปรุงลักษณะใบหน้าให้ดูสมดุลและมีความสมส่วนมากขึ้น เพิ่มความเป๊ะให้ใบหน้ามากขึ้น เสริมความมั่นใจมากขึ้นนั่นเอง
ผู้ที่ต้องการเติมเต็มริมฝีปาก
การฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้เพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรงริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูเต็มและมีรูปร่างที่สวยงาม เรียกว่าปากเป็นกระจับ
ผู้ที่มีแผลเป็นหรือรอยยุบจากสิว
ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มรอยแผลเป็นหรือรอยยุบที่เกิดจากสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
ผู้ที่ต้องการปรับปรุงลักษณะร่างกาย
นอกจากใบหน้าแล้วฟิลเลอร์ยังสามารถใช้ในบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น มือ เพื่อเติมเต็มและทำให้ผิวเต่งตึงขึ้นและดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์เบื้องต้น
ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนที่ประเมินโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้
1. การประเมินและวางแผน
ประเมินใบหน้าและบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์:
แพทย์จะตรวจสอบและประเมินใบหน้าเพื่อวางแผนการฉีดที่เหมาะสม ประกอบกับพิจารณา
เป้าหมายและความต้องการของผู้รับการรักษา
การเลือกชนิดของฟิลเลอร์:
แพทย์จะเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่จะฉีด เช่น ฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), คอลลาเจน, หรือ PMMA
2. การเตรียมตัวก่อนการฉีด
การทำความสะอาดผิวหนัง:
ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะฉีดด้วยสารฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
การใช้ยาชา:
หากจำเป็น แพทย์อาจใช้ยาชาหรือครีมยาชาเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีด
3. เข้าสู่ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์:
แพทย์จะใช้เข็มหรือแคนนูล่าฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณที่ต้องการปรับปรุง อย่างละเอียดและแม่นยำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เนียนสวย
การนวดและปรับแต่ง:
หลังการฉีด แพทย์อาจนวดเบาๆ เพื่อกระจายฟิลเลอร์และปรับแต่งรูปร่างให้เนียนเรียบ
4. การดูแลหลังการฉีด
การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์:
ผู้รับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ฉีด
การพักฟื้น:
ในช่วงแรกหลังการฉีด อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วัน
การติดตามผล:
แพทย์อาจนัดผู้รับการรักษากลับมาติดตามผลหลังการฉีดเพื่อประเมินผลลัพธ์และความพึงพอใจ
มาถึงตรงนี้แล้วสาวๆ หรือหนุ่มๆ คนไหนเริ่มสนใจการฉีดฟิลเลอร์แล้วล่ะก็ มาศึกษาการเตรียมตัวก่อนเริ่มเข้าสู่การฉีดฟิลเลอร์กันต่อเลยดีกว่าค่ะ
วิธีเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์และดูแลรักษาหลังทำฟิลเลอร์
การเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์และการดูแลรักษาหลังทำฟิลเลอร์มีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
วิธีเตรียมตัวก่อนทำฟิลเลอร์ (Filler )
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ:
นัดพบแพทย์เพื่อปรึกษาและประเมินใบหน้า รวมถึงแจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว และปรึกษาเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมถึงเลือกชนิดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด:
หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน (Aspirin), ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen), วิตามินอี (Vitamin E), และอาหารเสริมบางชนิดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เนื่องจากยาตามที่แจ้งข้างต้นอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลงและเพิ่มโอกาสเกิดรอยฟกช้ำ
งดดื่มแอลกอฮอล์:
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด เพื่อป้องกันการขยายหลอดเลือดและลดโอกาสเกิดรอยฟกช้ำ
รักษาความสะอาดผิวหน้า:
ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่แรงก่อนการฉีด
โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์เป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนและใช้เวลาไม่นาน โดยทั่วไปขั้นตอนจะใช้เวลาอยู่ระหว่าง 15-60 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณและบริเวณที่ต้องการฉีด รวมถึงการเตรียมตัวก่อนการฉีดและการปรึกษากับแพทย์
สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดเลยใช่ไหม?
ตอบเลยว่า ใช่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเห็นผลลัพธ์เบื้องต้นทันทีหลังการฉีด เนื่องจากฟิลเลอร์จะเติมเต็มและปรับรูปทรงของใบหน้าตามที่ต้องการทันที อย่างไรก็ตาม อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะลดลงในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นได้อย่างชัดเจนและคงที่ในช่วงเวลา 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด ผิวหน้าจะดูเรียบเนียนและมีความกระชับตามที่ต้องการ
การดูแลรักษาหลังทำฟิลเลอร์
หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด:
หลีกเลี่ยงการจับหรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการกระจายฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่ง
งดการใช้เครื่องสำอาง:
ควรงดการใช้เครื่องสำอางบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคือง
ประคบเย็น:
หากมีอาการบวม สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อลดอาการบวมและรอยฟกช้ำ
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก:
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
งดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่:
ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่หลังการฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการขยายหลอดเลือดและการเกิดรอยฟกช้ำ
ติดตามผลกับแพทย์:
แพทย์อาจนัดผู้รับการรักษากลับมาติดตามผลหลังการฉีดเพื่อประเมินผลลัพธ์และตรวจสอบว่ามีภาวะแทรกซ้อนหรือไม่
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ:
ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ผิวหนังฟื้นตัวเร็วขึ้นและฟิลเลอร์ดูดซึมได้ดี
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์:
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
เรามาดูส่วนของ
รีวิวผลลัพธ์จากลูกค้าของเราเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์
เพื่อประกอบการตัดสินใจเข้ารับการรักษากันต่อเลยดีกว่าค่ะ
ผลลัพธ์ที่ลูกค้าเคยได้รับหลังการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ใต้ตา:
ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดูสดใสขึ้นและริ้วรอยใต้ตาหายไปเกือบหมด ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ลูกค้ารู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เพื่อปกปิดรอยคล้ำอีกต่อไป รวมถึงฟิลเลอร์ใต้ตาทำให้ฉันดูไม่เหนื่อยเหมือนก่อนหน้านี้ ริ้วรอยลึกที่เคยมีก็หายไป พอใจมากกับผลลัพธ์ที่ได้และคิดว่าจะกลับมาทำอีกแน่นอน
ฟิลเลอร์ริมฝีปาก:
ทําให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นหลังจากฉีดฟิลเลอร์ รูปปากชัดเจนและสมดุลมากขึ้น นอกจากนี้บางท่านเคยกังวลว่าการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากจะดูไม่เป็นธรรมชาติ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้าม กลับทําให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติและดูนุ่มนวลละมุนขึ้น
บทสรุป
เมื่อพูดถึงการทำฟิลเลอร์เพื่อเสริมความงาม หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา ที่ Dermistique เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดและเป็นที่พึ่งพอใจสำหรับลูกค้าของเรา ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ยาวนานในด้านการทำฟิลเลอร์ เรามีความพร้อมในการให้บริการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
คลินิก Dermistique มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสูง ไม่เพียงแค่
คลินิกสะอาดและปลอดภัย
ที่ Dermistique เราให้ความสำคัญกับความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก สถานที่ของเราได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามมาตรฐานทางการแพทย์อย่างเคร่งครัด ทุกขั้นตอนของการรักษาจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและสะอาด
สินค้านำเข้ามีใบอนุญาต
เราใช้ฟิลเลอร์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานและใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ฟิลเลอร์ทุกชนิดที่เราใช้มีคุณภาพสูงและผ่านการทดสอบความปลอดภัยในระดับสากล เพื่อให้ทุกคนมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษา
ทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนาน
ทีมแพทย์ของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการทำฟิลเลอร์มานาน มีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษา แพทย์ทุกท่านได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดและมีความเชี่ยวชาญในการใช้ฟิลเลอร์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและตรงตามความต้องการของลูกค้าและด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานในการทำฟิลเลอร์และการดูแลลูกค้าของเรา เราได้พัฒนาความเชี่ยวชาญและเทคนิคในการทำฟิลเลอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทีมแพทย์ของเรามีการติดตามผลลัพธ์และปรับปรุงวิธีการเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
.
หากใครกำลังมองหาคลินิกที่เชี่ยวชาญในการทำฟิลเลอร์และต้องการรับบริการจากทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ต้องลังเลที่จะติดต่อ Dermistique ได้ที่ช่องทาง Line @dermistique เพื่อรับคำปรึกษาเลยนะคะ เรารับให้คําปรึกษาฟรี เพียงแค่จองคิวก่อนเข้ารับคําปรึกษา คลินิกของเราพร้อมที่จะให้บริการและดูแลทุกคนอย่างดีที่สุดเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่พึงพอใจและสวยงามอย่างแท้จริงค่ะ