Revitalive PRP ขั้นกว่าของการฟื้นฟู
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาผิวแบบไหน รอยสิว รอยแดง ริ้วรอย หรือผิวหมองคล้ำ ทาครีมบำรุงก็ยังไม่ได้ผลที่น่าพอใจ Dermistique ขอนำเสนอวิธี Revitalive PRP ในการเข้ามาช่วยบำรุง PRP คือเทคโนโลยีนี้จะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวได้ลึกถึงระดับเซลล์ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิวไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน จองคิวเพื่อทำการประเมินได้ที่ LINE Official: @dermistique (มี @)
หลักการทำงานของ Revitalive PRP
PRP (PLATELET RICH PLASMA) คือหลักการนำเลือดของเรานั้นมาปั่นแยกเพื่อทำการคัดเฉพาะพลาสมาที่มีเกล็ดเลือด และ Growth Factor เข้มข้น โดย PRP นั้นจะเข้ามาทำหน้าที่ในการรักษาเนื้อเยื่อซ่อมส่วนที่เสียหายให้กลับมาสุขภาพดี ซึ่งเต็มไปด้วยโมเลกุล Growth Factor ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ และสเต็มเซลล์เพื่อซ่อมแซมผิวหนังที่เสื่อมสภาพจากอายุที่มากขึ้น ในปัจจุบันเราเจอมลพิษค่อนข้างเยอะทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดปัญหาผิวตามมาไม่ว่าจะหมองคล้ำ ริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น PRP จึงทำหน้าที่เข้าไปซ่อมแซม กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ PRP ด้านการบำรุงผิว
PRP อุดมไปด้วยโปรตีน สารอาหารที่เข้ามาฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ สามารถแก้ไขปัญหาผิว ดังนี้
-ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวกระชับ ลดริ้วรอยต่างๆ เพิ่มความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
-ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ จากมลพิษต่างๆ
-ช่วยรักษาริ้วรอยตามส่วนต่างๆ ของใบหน้า ทั้งหน้าผาก หว่างคิ้วหรือหางตา
-ช่วยรักษาสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดงจากสิว
-ช่วยรักษาหลุมสิว กระชับรูขุมขนเล็กลง
แตกต่างจากการฟื้นฟูผิวด้วยวิธีอื่นอย่างไร ?
PRP หน้าใส คือการนำเลือดของตัวเองมาใช้ในการฟื้นฟูผิว เป็นเหมือนการบำรุงผิวจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียน รูขุมขนกระชับขึ้น และที่สำคัญคือปลอดภัยสูงมาก เพราะใช้เลือดของตัวเองไม่มีสารอันตรายใดๆ ต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่แค่เติมเต็มเฉพาะจุด PRP จะช่วยฟื้นฟูผิวและเติมเต็มไฮยาลูโรนิค HAได้ทั่วทั้งใบหน้าเลย
.
อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากบำรุงให้ครบทุกด้านสามารถใช้ Revitalive PRP ควบคู่กับการบำรุงผิวหรือหัตถการอื่นๆ ได้เช่นกันเป็นการช่วยกันฟื้นฟูผิว ซ่อมแซม ให้มีผิวสุขภาพดีอย่างยาวนาน
ข้อจำกัดในการทำ PRP ในการบำรุงผิว
การทำ PRP (PLATELET RICH PLASMA) มีข้อจำกัดดังนี้
- ผู้ที่เคยมีโรคหรืออาการที่มีความผิดปกติของเกล็ดเลือดต่างๆ
- มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือมีการติดเชื้อเฉพาะส่วนในบริเวณที่ทำการรักษา
- มีการใช้ยากลุ่ม NSAID อย่างต่อเนื่องภายใน 48 ชั่วโมง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงที่ต้องรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือสลายลิ่มเลือด
- ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งต่างๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเม็ดเลือด
- ไม่แนะนำให้ทำร่วมกับ Botox หรือ filler ในเวลานี้กัน ควรทิ้งช่วงตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อป้องกันอาการต่างๆ ระยะห่างจาก Botox ควรทิ้งช่วง 1 สัปดาห์ และ filler 2-3 สัปดาห์
ขั้นตอนการทำ Revitalive PRP ผิวหน้า
- ทำการเจาะดูดเลือดที่ข้อพับแขนตามปริมาณที่แพทย์แนะนำหลังจากทำการประเมิน
- นำเลือดมาปั่นเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นและมี Growth Factor สูง
- ทำการเเยกเกล็ดเลือดที่สมบูรณ์เเละเข้มข้นออกจากเกล็ดเลือดปกติแล้ว
- แพทย์ฉีด PRP กลับเข้าสู่บริเวณหน้าเพื่อให้ทำการไปซ่อมแซมผิวหน้าต่างๆ
ซ่อมแซมผิว ฟื้นฟูอย่างปลอดภัยด้วย PRP
PRP จะช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเอง ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ริ้วรอยลดลง ผิวดูอิ่มน้ำ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏออกมาภายใน 3 เดือน และหลังจากนั้นจะดีขึ้นเรื่อยๆ อยากมีผิวสวยใส สุขภาพดี อ่อนเยาว์ ลองทำ Revitalive PRP ดู ผิวจะดูอิ่มน้ำ ริ้วรอยลดลง ผิวเรียบเนียน สำหรับใครที่อยากกลับมาทำซ้ำสามารถทำได้ จำนวนที่เหมาะสมให้ผิวสวย กลับมาแข็งแรงที่สุดคือ ซ้ำ 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ หรือตามดุลยพินิจของแพทย์